Monday, September 30, 2019

แนะนำอนิเมะวาย และซีรี่ย์วายที่เราชอบมาก!!! part I

เรามาเริ่มกันที่อนิเมะก่อนละกัน มีทั้งจีนและญี่ปุ่น
  1. Spiritpact หรือ Soul Contract

เป็นอนิเมะวายจีน มี 2 ซีซั่น
ซีซั่นแรก มีทั้งฉบับภาษาจีน (10ตอน) และฉบับรีเมคของญี่ปุ่น (12 ตอน) เนื้อหาเหมือนกัน แค่พากย์เสียงคนละภาษา
ซีซั่นที่สอง เป็นเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นอย่างเดียว

ส่วนตัวชอบเรื่องนี้มาก พระเอกผมขาว(ซึ่งในเวอร์ชั่นอดีตหน้าหวานมากจนนึกว่าเคะ) เป็นเหมือนผู้ชำระจิตวิญญาณโลกอะไรเทือกนั้น ส่วนนายเอก(เวอร์ชั่นวิญญาณคือเคะน่ารักมาก น่าเอ็นดู แต่เวอร์ชั่นแบบพลังเต็มรูปแบบ จะหล่อม๊ากก บางทีนึกว่าสลับโพ) เป็นมนุษย์ธรรมดาที่ดันโดนรถชนตายกลายเป็นวิญญาณ ละถูกพระเอกขอร้องให้ช่วยเป็นเงาให้ เชิงว่าเป็นวิญญาณรับใช้อ่ะแหละ

เพลงประกอบอนิเมะเรื่องนี้คือดีย์ ความหมายแบบ..อาจจะไม่ได้เชิงหวานซึ้งไรมาก แต่มันกินใจมากสำหรับเรา ไปเสริชหาดูได้ค่ะ ชื่อเพลง 好在你沒有離開我


2. Grand master of demonic cultivation

เรื่องนี้คือดังมากไม่รู้จักไม่ได้แล้ว ซีรี่ย์ภาษาไทย "ปรมาจารย์ลัทธิมาร"
สร้างจากนิยายเรือง Mo Dao Zu Shi ของนักเขียน Mo Xiang Tong Xiu Chinese: 墨香铜臭

เปิดเรื่องมานายเอก เว่ยอู๋เซี่ยน หรือ เว่ยอิง (เสื้อดำ) ชาติก่อนได้สมญานามว่า ปรมาจารย์อี๋หลิง หรือ อี๋หลิงเหลาจู่ ตายไปแล้วเมื่อ 16 ปีก่อนเพราะศึกที่แย่งชิงเหล็กทมิฬ ถูกอัญเชิญโดยคุณชายโม่ที่สติไม่ค่อยดี ทำให้เว่ยอู๋เซี่ยนกลับมามีชีวิตในร่างของคุณชายโม่ เว่ยอู๋เซี่ยนต้องเติมเต็มตามความปรารถนาที่จะแก้แค้นของคุณชายโม่ ก็ได้กลับมาเจอ หลานวั่งจี หรือ หลานจ้าน พระเอกของเรา (เสื้อขาว) หลานจ้านที่เสียคนรักของเขาไป 16ปี กลับได้มาพบเว่ยอิงอีกครั้ง ...จะเกิดอะไรขึ้นน้าา ไปดูกันได้ค่ะ

ในซีรี่ย์และอนิเมะไม่วายมาก ฉากแบบมิตรภาพ พอให้ได้จิ้น แต่ในนิยายจากวายจ๋าเลย ถ้าอยากฟินหลายรูปแบบ แนะนำดูมันทุกรูปแบบไปเลยค่ะ จัดเต็มสตรีม

ขอกระซิบว่าซีรี่ย์ถึงจะไม่วายมาก แต่นักแสดงงานดีตั้งแต่นายเอก พระเอก พระรองยันลูกกระจ๊อกทั้งหลายแหล่ ผู้ชายงานดีแห่กันมาเล่นเรื่องนี้หมดเลยค๊าา


 3. Sekai ichi Hatsukoi

จีนไปแล้ว คราวนี้มาญี่ปุ่นบ้างค่ะ ชื่อเรื่องนี้แปลเป็นภาษาอังกฤษ คือ The world's greatest first love 

เรื่องนี้คือชอบมากที่สุดในวายญี่ปุ่นเลยอ่ะ เพราะเนื้อเรื่อง และแบบคาแรคเตอร์ของทั้งตัวพระเอก และนายเอก ที่ชอบมากสุดคงจะเนื้อเรื่อง เราเชื่อว่า สาวสาวทุกคนวาดฝันว่าจะเจอรักแท้อ่ะ แล้วก็จะเจอผู้ชายที่มั่นคง และพระเอกของเรื่องนี้ คือใช่เลย ! 

เพราะความเข้าใจผิดทำให้ทั้งสองจบกันอย่างไม่ดี 10ปีต่อมาพระเอกเป็นหัวหน้ากองบก ส่วนนายเอกมาสมัครงานในบริษัทนี้(ที่จริงไม่ได้สมัครเข้าแผนกพระเอก แต่จับพลัดจับพลูมาทำ) ตอนแรกที่เจอกันทั้งสองฝ่ายต่างจำกันและกันไม่ได้ เพราะไม่ได้เจอกันมานานแล้ว แต่ไม่นานทั้งสองก็จำกันและกันได้ และเรื่องราวความสนุกมันก็เริ่มมาจากนั้น

นายเอกของเรา โอโนะเดระ คือซึนมาก ทำใจหน่อย ส่วนพระเอกก็ตื้อเก่ง ฮ่าาา
มีเป็นเวอร์ชั่นมังงะ หาอ่านต่อจากในอนิเมะได้นะคะ อนิเมะจะทำอยู่แค่ 2 ซีซั่น

Sunday, September 22, 2019

Forbidden Love คำสาปรัก สองแผ่นดิน ตอนที่ 1 : จดหมายปริศนา

จดหมายปริศนา

บ้านหลังใหญ่สีขาวที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้นานาพันธุ์ แสงแดดอ่อนๆที่สาดส่องที่ระเบียงบ้าน บอกให้เรารู้ว่ารุ่งอรุณวันใหม่ได้เริ่มขึ้นมานานพอสมควรแล้ว เสียงของต้นไม้พลิ้วไหวน้อยๆที่ทำให้จิตใจรู้สึกสงบสดชื่นในยามเช้า กลับถูกขัดขึ้นด้วยเสียงของชายแก่ผมขาวหงอกยาวประบ่า ใบหน้าเต็มใบด้วยรอยเหี่ยวย่นที่บ่งบอกถึงความชราได้เป็นอย่างดี

“เรนเอ๊ยย เรน” ชายแก่รูปร่างอ้วนท้วมที่ถึงแม้จะดูชราไปมากโขกว่าอายุเพียงห้าสิบปลายๆของเขา แต่ก็ยังดูแข็งแรงและกระฉับกระเฉงนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้โยกสีน้ำตาล ท่ามกลางสวนต้นไม้เล็กๆ และดอกไม้นานาพันธุ์ส่งกลิ่นหอมโชยมา ผสมกับกลิ่นของชากุหลาบ และขนมคุ้กกี้ที่เพิ่งอบเสร็จใหม่ๆวางอยู่บนโต๊ะสลักไม้ที่มีลวดลายประณีตสวยงาม

“เรนนน… เรนโว้ยยยยยย” ชายแก่เริ่มตะโกนอีกครั้ง หลังไม่ได้ยินเสียงตอบรับอะไรกลับมาจากเด็กหนุ่มที่ชื่อ ‘เรน’
“มันหายไปไหนของมันเนี่ย…เห้อ” เขาถอนหายใจหนักๆและตัดสินใจเลิกตะโกนเรียกเด็กหนุ่ม ก่อนหันกลับมาเพลิดเพลินกับบรรยากาศในสวนเล็กๆของเขาต่อ

ทันใดนั้น ก็ปรากฎซองจดหมายที่ไม่มีชื่อผู้ส่ง ปลิวมาตามสายลมที่มีเม็ดฝนปรอยๆ ชายแก่นัยน์ตาเบิกกว้างพร้อมแบมือเพื่อรอรับจดหมายนั้นทันที จดหมายฉบับนั้นลอยลงมาตกที่ฝ่ามือของชายแก่ได้อย่างพอดิบพอดี

“ตราสัญลักษณ์แบบนี้มัน…” ชายแก่พึมพำกับตัวเองเบาๆหลังจากที่เห็นซองจดหมายสีขาวที่มีตราสัญลักษณ์วงกลมที่มีสิบแฉกซึ่งมีสีที่แตกต่างกันไปแต่ละแฉก ตรงกลางของวงกลมมีดาบสองเล่มไขว้กัน

“ถึงเวลาแล้วสินะ” พริบตาที่เปิดซองจดหมายที่ไม่มีชื่อผู้ส่ง รูปร่างของชายแก่ก็ค่อยๆเปลี่ยนไป ผมสีขาวหงอกที่เคยยาวเท่าบ่า กลายเป็นสีเทาแซมฟ้ายาวลงไปถึงที่เอว หน้าที่เคยเต็มใบด้วยรอยเหี่ยวย่น กลับกลายเป็นหน้าของชายหนุ่มรูปงาม รูปร่างที่เคยอ้วน กลับกลายเป็นสูงเพรียว ดวงตาสีดำขลับกลายเป็นสีฟ้าสดที่ฉายแววความปิติยินดีอยู่ในนั้น

“…เกือบ 15 ปีแล้วสินะ ที่ข้าจากมา คิดถึงเหลือเกิน” ราวกับเวทมนต์ ชายแก่อ้วน บัดนี้เหลือเพียง ชายหนุ่มรูปงามที่ใบหน้าออกหวานราวกับผู้หญิง ดูสง่างาม ผมสีเทาแซมฟ้ายาวพริ้วไหวไปกับสายลม ดวงตาสีฟ้าดูทรงพลัง งดงามราวกับภาพวาด

“วันที่ข้ารอคอย…”

‘ปัง’

เสียงปิดประตูดังขึ้นก่อนที่เขาจะพูดจบ เพียงพริบตาเดียว ร่างของชายหนุ่มก็กลับมาเป็นชายแก่ดังเดิม ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ลุงเน็ท ผมกลับมาแล้ววว…” เสียงใสๆ ของเด็กหนุ่มหน้าหวานที่หวานยิ่งกว่าเด็กผู้หญิง นัยน์ตาสีดำสนิทเปล่งประกายสดใส ผมสีดำสลวย ตัดกับผิวที่ขาวผุดผ่องราวกับหิมะบริสุทธิ์

“กลับมาแล้วก็มานี่เลยเจ้าตัวดี หายไปไหนมา ลุงเรียกแกตั้งหลายรอบแล้วรู้มั้ย!” ลุงเน็ทเอ็ดอย่างไม่จริงจังนัก

“แหะๆ…ผมออกไปเดินเล่นที่ริมน้ำมาอ่ะลุง วันนี้อากาศดี๊ดี เลยอยากออกไปสูดอากาศสักหน่อย” เด็กหนุ่มที่ชื่อเรนตอบด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริงปนทะเล้นอยู่ในที

“เหอะ ลุงก็เห็นแกหาเรื่องออกไปเที่ยวเล่นได้ทุกวันอยู่แล้ว ทำมาอ้างโน่นนี่” ลุงเน็ทย้อน

“โห่ว ลุงอ๊ะ!” เด็กหนุ่มเดินมานั่งที่เก้าอี้ไม้ตรงข้ามกับลุงเน็ท พร้อมกับส่งสายตาที่คิดว่าอ้อนที่สุดของตัวเอง

“…มองแบบนี้ มีอะไรห่ะ” ลุงเน็ทเอ่ยขึ้น หลังเห็นสายตาลูกหมาของเรน ถ้าเป็นคนอื่นคงรู้สึกว่าน่าหมั่นไส้ไปแล้ว แต่พอเป็นเด็กหนุ่มคนนี้แล้วกลับอดรู้สึกเอ็นดูไม่ได้ทุกที

“หิวแล้วอ่ะลุง มีอะไรกินมั่งมั้ย” เด็กหนุ่มเอ่ยถาม ขณะเดินตรงไปที่ห้องครัว

“โตแล้ว หากินเอาเองนุ่น”

“คร้าบ” เรนตอบเสียงดังพลางเปิดตู้เย็นดู

ลุงเน็ทยิ้มอย่างเอ็นดูมองเรนสักพัก ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้น 

“เรน”

“ครับลุง” เรนขานรับแต่สายตายังคงจดจ่อกับการหาของกินของเขา

“นี่ ฉันให้…” ลุงเน็ทหยิบหนังสือปกสีน้ำตาลเล่มใหญ่ที่ดูเก่าๆเล่มนึงยื่นให้เรน

เรนหันกลับมามอง ก่อนเบิกตากว้างด้วยความดีใจ

“ของขวัญวันเกิดผมหรอ” ลุงเน็ทพยักหน้ารับ แอบซ่อนรอยยิ้มเอ็นดู “แต่ยังอีกตั้งหลายวันนะ ลุง” เรนเอ่ยอย่างสงสัย

“เมื่อยโว้ย รีบๆมารับสิ เดี๋ยวก็โยนทิ้งซะนี่” ลุงเน็ทแกล้งเอ่ย

“อย่านะลุง โถ่วว” เรนรีบเดินมารับหนังสือในมือของลุงเน็ท ก่อนที่ลุงเน็ทจะปาทิ้งจริงๆ

เขาพิจารณาหนังสือในมือด้วยความดีใจ หนังสือเล่มสีน้ำตาลที่แม้จะดูเก่าไปนิด แต่ว่าก็มีลายสลักลวดลายงดงามอย่างปราณีต มีสัญลักษณ์วงกลมสิบแฉกสิบสี และดาบไขว้อยู่ตรงกลาง เขาเปิดหนังสือขึ้นดูทันที

“กระดาษเปล่านี่…สมุดโน้ตหรอลุง” เรนเอ่ยถามด้วยความฉงน หนังสือดูเก่าแก่ราวกับเก็บข้อมูลของเรื่องราวเก่าๆมานับพันปี แต่ด้านในกลับเป็นกระดาษที่ว่างเปล่าเนี่ยนะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ

ลุงเน็ทยิ้ม

“เก็บไว้เถอะ เมื่อถึงเวลาแกจะรู้เอง ขอแค่รักษามันให้ดีก็พอ”

‘อย่ากังวลไป มีแต่เจ้าที่อ่านมันได้นะ เรน’

“ขอบคุณครับลุง ผมจะเก็บรักษาอย่างดี” เรนชอบมันมาก ราวกับมันมีมาเพื่อเค้าจริงๆ

ลุงเน็ทมองออกไปทางสวนดอกไม้ เขายิ้มมุมปากให้กับต้นไม้ในสวน ก่อนจะเอ่ยกับเรน “วันนี้ต้องเข้านอนเร็วนะ”

“คร้าบบ แต่ตอนนี้ขอกินก่อนนะลุง” ว่าแล้วเรนก็ทำท่าจะตรงไปยังห้องครัวหากลุงเน็ทไม่เอ่ยขัดขึ้นเสียก่อน

“เดี๋ยวอย่าเพิ่ง นี่ก็ของแก” ลุงเน็ทพูดพลางยื่นกระดาษแผ่นนึงให้

“ถึงคุณเรน เวมิสก้า…ส่งถึงผมจริงด้วยแหะ…จากโรงเรียนเวดิกชาโต้…ไม่เห็นเคยได้ยินชื่อ” เรนอ่านพึมพำ ก้มหน้าอ่านเนื้อความในจดหมายต่อก่อนจะอุทานเสียงดังขึ้น

“เข้าเรียน!!…รายงานตัว!!!…อีก เจ็ดวัน !!!!”

‘นี่มันเรื่องอะไรกัน!!’

“โอ้ย เสียงดัง คนแก่หัวใจจะวายตายพอดี” ลุงเน็ทแสร้งทำมือกุมหัวใจ

“ก็มันตกใจ แล้วโรงเรียนนี่ ผมไม่เคยไปสมัครนะ…ไม่สิ ประเด็นมันไม่ใช่ตรงนั้น… นี่มันโรงเรียนอะไร ไม่เคยได้ยินชื่อ หรือว่าต่างประเทศหรอลุง แล้วตามวันที่ว่าต้องไปรายงานตัว มันก็แค่อีกเจ็ดวัน ทำไมมันด่วนงี้อ่ะ”

“อ้อ…เรื่องนั้น” ลุงเน็ททำเสียงอ้อมแอ้ม เดินกลับไปนั่งเก้าอี้ของเขา ในขณะที่เรนเริ่มสับสนและคุยกับตัวเอง ลุงเน็ทยังคงแสร้งจิบชาเหมือนไม่ค่อยอยากจะตอบ

เรนไล่สายตามองกระดาษในมือ ก่อนที่จะพบว่า “จดหมายส่งมาตั้งแต่เดือนที่แล้วนี่ โถ่วว ลุ๊งงงงง”

“แหมๆ ก็คนแก่อ่ะ ลืมบ้างไรบ้าง เป็นธรรมชาติ” ลุงเน็ทแก้ตัวแบบขอไปที

“แล้วจะเตรียมตัวทันได้ยังไงอ่ะ” ก่อนอื่นเลยคงต้องหาก่อนสินะว่าโรงเรียนตั้งอยู่ที่ไหน

“แค่รายงานตัว ไม่ต้องเตรียมอะไรไปหรอกน่า” หาไปก็ไม่เจอหรอก โถ่วเอ้ย ลุงเน็ทคิดในใจขณะมองเรน เสริชหาข้อมูลในโทรศัพท์ของเขา

“หาไม่เจออ่ะลุง แปลกมาก” หาเจอสิแปลกกว่า จะเอายังไงดีนะ ลุงเน็ทคิดก่อนจะเอ่ยขึ้น “ไว้พรุ่งนี้ค่อยหาต่อเถอะ วันนี้ก็ไปพักก่อน”

“อีกสามวันเนี่ยนะลุง ใจเย็นไปมั้ง” เรนแย้ง

“เชื่อลุงสิ ก็แค่โรงเรียน จะไปยากอะไร” เรนทำหน้าลังเลเล็กน้อยก่อนพยักหน้าตกลง

“ก็ได้ หิวแล้วด้วย ไปหาไรกินดีกว่า” เขาวางจดหมายไว้บนโต๊ะและเดินกลับเข้าครัวไปอย่างอารมณ์ดี ราวกับลืมเรื่องรายงานตัวไปแล้ว

“เอ้อ ไอ่นี่ เปลี่ยนอารมณ์ง่ายจริง” ลุงเน็ทพึมพำกับตัวเอง พลางยกแก้วชาขึ้นจิบ ในขณะเดียวกัน เขาก็กำจดหมายในมืออีกข้างที่ซ่อนเอาไว้ไม่ให้เรนเห็นแน่น

ใกล้แล้วสินะ ใกล้แล้ว…

เขานึกกับตัวเองในใจ แสงสีฟ้าอ่อนส่องแสงออกมาจากมือข้างที่มีจดหมาย ก่อนที่มันจะสลายหายไปในอากาศราวกับจดหมายฉบับนั้นไม่เคยมีอยู่

_____________________________________________________


ติดตามเนื้อหาตอนต่อไปได้ที่นี่ -> นิยาย Forbidden Love คำสาปรัก สองแผ่นดิน


ฝากติดตามผลงาน และอย่าลืมคอมเม้นท์ติชมเพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยนะค้า
twitter : @FKurosama

ฟิคสั้น "ก็เพราะคิดถึง" #อี้จ้าน


ก็เพราะคิดถึง

“พี่จ้าน ผมคิดถึงพี่” อี้ปั๋วเอื้อมมือไปโอบหลังจ้านเกอ พร้อมตีเบาๆที่เอว ทั้งอีกมือยังกุมมือพี่ไว้แน่น แอบสูดดมกลิ่นกายของจ้านเกอไว้อย่างรวดเร็ว

เซียวจ้านหลุดยิ้มทันทีที่ได้ยินน้องชายตัวแสบของเขากระซิบเข้าที่ข้างหู ทั้งที่ยังทำงานอยู่แท้ๆ กลับพูดอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ เมื่อผละกันก็ยิ้มให้ละชี้หน้าไปยังน้องชายตัวแสบที่พูดอะไรไม่ดูเวล่ำเวลาสักนิด


พิธีกรพูดดำเนินงานต่อไปจนงานจบลง นักแสดงกล่าวอำลาผู้ชมแล้วทยอยเดินเข้าหลังเวที


“จ้านเกอๆๆ” เสียงอี้ปั๋วเรียกตามหลัง ทำให้เซียวจ้านหยุดรอและหันกลับไปหา


“นายเนี่ยนะ พูดอะไรก็ไม่รู้กลางเวที” เซียวจ้านพูดเสียงดุทีเล่นทีจริง


“จ้านเกอ มากับผมแปปสิ” อี้ปั๋วไม่เพียงไม่ฟังที่เซียวจ้านพูด แต่พูดสวนไปเลยทันที พร้อมออกแรงดึงให้จ้านเกอของเขาเดินตาม


“นี่นายจะพาฉันไปไหน เกอเกอต้องไปสนามบินต่อนะ” เซียวจ้านพูดเสียงหลง


“ผมรู้ แค่แปปเดียว” อี้ปั๋วพลักเซียวจ้านเข้าไปในห้องแต่งตัวที่ไม่มีคนใช้งาน จากนั้นก็ปิดประตูทันที


‘ปัง’


มือของอี้ปั๋วโอบเข้าที่เอวเซียวจ้าน พร้อมดึงเข้าหาตัวอย่างรวดเร็ว


“นี่...ทำอะ..ไ..อุ้ปป..อืออ” เสียงทักท้วงของเซียวจ้านขาดหายไปทันทีเมื่ออี้ปั๋วประกบปากของเขาลงบนกลีบปากบางสีกุหลาบของเซียวจ้าน มืออีกข้างที่ว่างรวบสองมือของเซียวจ้านขึ้นเหนือศรีษะ แล้วพลักให้หลังของเซียวจ้านแนบชิดเข้ากับประตู


“อืออ..อืออออ” เสียงที่เหมือนจะทักท้วงในทีแรก เอาแต่ใจกลายๆ กลายเป็นเสียงที่เคลิบเคลิ้มไปกับบทจูบอันแสนเร่าร้อนจากคนที่แสนคิดถึงนี้


“อืมมม” อี้ปั๋วคำรามเสียงต่ำอย่างพึงพอใจ


ทั้งสองเคลิบเคลิ้มไปกับบทจูบราวกับใช้มันระบายความคะนึงหาที่มีต่อกัน ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ จึงค่อยๆผละออกมาอย่างอ้อยอิ่งราวกับเสียดาย


สายตาของอี้ปั๋วที่มองเซียวจ้านทั้งอบอุ่นทั้งร้อนแรง ทำให้เลือดลมของเซียวจ้านถูกสูบฉีดอย่างหนัก จนพวงแก้มทั้งสองข้างขึ้นสีแดงระเรื่อ หลุบสายตาลงต่ำไม่กล้าสบตากับน้องชายที่ช่างกล้าโขมยจูบเค้าอย่างเหิมเกริม และตัวเองก็เผลอเคลิบเคลิ้มไปกับมันอีกตังหาก


“นายคิดว่าตัวเองเป็นหลานจ้านที่โขมยจูบเว่ยอู๋เซี่ยนอยู่หรือไง” อี้ปั๋วเบิกตาขึ้นเล็กน้อยอย่างแปลกใจก่อนหลุดขำ เขากระเถิบตัวเข้าหาเซียวจ้านอีกเล็กน้อย ก่อนจะกระซิบเบาๆที่ข้างหู


“ผมคิดว่าผมเป็นหลานจ้าน...


ที่แอบรักเว่ยอู๋เซี่ยน”


______________________________________________


ติดตามผลงานนิยายเรื่องอื่นๆ ได้ที่นี่ คลิ๊กเล้ย ! ->

Twitter : @FKurosama